Dipabhāvan meditation center, koh Samui, Thailand
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับทีปภาวัน
    • ความเป็นมา
    • มูลนิธิทีปภาวัน
    • พระภาวนาโพธิคุณ
  • อาคารสถานที่
    • แนะนำอาคารสถานที่
    • ศาลาปฏิบัติธรรม
    • อาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมสุภาพสตรี
    • ทางเดินภายในพื้นที่
    • สวนธรรมเภรี
    • สวนป่าศิขรินสินธุ
    • สวนสมคิดกฤษณาสาระภู
    • ห้องครัวทีปภาวัน
  • หลักสูตรปฏิบัติธรรม
    • หลักสูตรสุดสัปดาห์แสวงหาอริยะทรัพย์
    • หลักสูตรหาสุขได้จากทุกข์ ขั้นพื้นฐาน
    • หลักสูตรหาสุขได้จากทุกข์ ขั้นสูง
  • ข้อควรปฏิบัติ
  • ตารางปฏิบัติ
  • สมัครปฏิบัติธรรม
  • กิจกรรม
    • ภาพกิจกรรม
    • โครงการปลูกป่า
    • โครงการธรรมะ
    • วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ
  • การเดินทาง
    • รถทัวร์
    • รถไฟ
    • เครื่องบิน
    • รถส่วนตัว
    • จุดนัดพบทีปภาวัน
  • สื่่อธรรมะ

:บทสัมภาษณ์:

       
          ในส่วนของการสัมภาษณ์วันนี้ ผู้เขียนได้ขอสัมภาษณ์น้องๆ นักเรียน ๓ คน    และพร้อมกันนี้ ผู้เขียนยังได้ขอสัมภาษณ์พระอาจาย์มาลา สติสมฺปนฺโน พระวิทยากรจากวัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระวิทยากรร่วม ที่เดินทางมาพร้อมกันพระอาจารย์มานพ จากสวนโมกขพลาราม เพื่อให้การอบรมธรรมะแก่น้องๆ นักเรียน จาก ๖ โรงเรียน ที่เดินทางมาสวนธรรมเภรีในวันนี้

Picture

พระอาจารย์มาลา สติสมฺปนฺโน

           
        เกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ทราบว่า ก่อนอุปสมบท พระอาจารย์มาลา มีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาทางด้านนิติศาสตร์ แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจบวช เพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่ และจะลาสิกขาเมื่อครบกำหนด  แต่ท่านโชคดีเมื่อได้มีโอกาสพบพระเถระผู้เป็นกัลยาณมิตรในวัด (พระอาจารย์อธิป อธิปญฺโญ) ทำให้ได้รับแรงบันดาลใจ และความรู้ด้านการปฏิบัติ  จนท่านเกิดศรัทธา ตัดสินใจครองเพศบรรพชิตต่อมาจนถึง ๖ พรรษา และเป็นกลายพระ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่ธรรมะ อีกรูปหนึ่งของวัดอุโมงค์

           ผู้เขียนเรียนถามท่านเกี่ยวการทำงานเผยแผ่พระศาสนาของท่านที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านกรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

              ท่านพร้อมด้วย พระภิกษุอีก ๗ รูป ร่วมกันทำงานเผยแผ่ โดยมี สำนักงานสวนพุทธธรรม เป็นเหมือนที่ทำงานไปโดยปริยาย  โดยมีการให้การอบรมธรรมะ ทั้งแก่นักศึกษาเยาวชน และมีการออกไปอบรมหรือเทศนา เผยแผ่นอกสถานที่ให้กับหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ด้วย

           ประชาชนที่ค่อนข้างมีความพร้อมในด้านชีวิตความเป็นอยู่ และนักศึกษา  มีโอกาสเข้าถึงพระ และได้รับการเผยแผ่ธรรมะเข้าสู่ชีวิตมากกว่า เนื่องจาก ประชาชนที่มีฐานะความเป็นอยู่ระดับกลางขึ้นมา  สามารถมีเวลาว่างและความพร้อมด้านอื่นๆ ในการเดินทางมาที่วัดโดยตรง อีกแง่หนึ่ง ท่านกล่าวว่า การทำงานเผยแผ่ที่ท่านทำอยู่ ในลักษณะนี้ พระอาจจะเปรียบเหมือนเป้านิ่ง ที่ประชาชนที่มีความทุกข์ มีปัญหาหรือข้อสงสัยต่าง จะเป็นฝ่ายเดินทางมาหา

           
          
             นอกจากนี้ พระอาจารย์มาลายังได้กล่าวถึงข้อจำกัด ในการทำงานเผยแผ่ธรรมะที่นั่นว่า ประชาชนที่ยังมีภาระหน้าที่รัดตัว ในการทำงานหาเลี้ยงชีพ และไม่มีความพร้อมในด้านฐานะความเป็นอยู่มากนัก คือกลุ่มที่การทำงานเผยแผ่ธรรมะของท่านเข้าไปยังไม่ถึง  เนื่องจาก โดยสภาพและลักษณะการทำงาน ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ไม่มีเวลาว่างพอที่จะเดินทางมาวัด และไม่เกิดจังหวะโอกาสที่พระที่ทำงานเผยแผ่จะเข้าถึงตัวด้วย

Picture

พระอาจารย์มาลา ขณะบรรยายธรรมที่สวนธรรมเภรี

           เห็นได้ว่า ลักษณะการทำงานเผยแผ่ธรรมะของท่านพร้อมด้วยคณะทำงาน จึงมีทั้งเชิงรุกเชิงรับ อันเป็นจุดเด่นในการทำงาน สำหรับในส่วนที่ท่านเห็นว่า ยังเป็นส่วนบกพร่องอยู่นั้น ก็เชื่อว่าด้วยวิสัยทัศน์ พร้อมด้วยความสามารถ จะทำให้ท่านและคณะทำงานสามารถหาทางฉีกข้อจำกัด เพื่อทำให้การเผยแผ่ธรรมะเข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวางในทุกระดับต่อไป

         
ทางทีปภาวันธรรมสถานขอขอบพระคุณพระอาจารย์มาลา สติสมฺปนฺโน ที่ได้เมตตานำธรรมะและสาระที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง มอบให้แก่น้องๆ นักเรียนกว่า ๘๐ ชีวิต ที่ขึ้นมาอบรมจริยธรรม ที่สวนธรรมเภรีในครั้งนี้ และหวังว่าโอกาสหน้าจะได้รับความเมตตาจากท่านพระอาจารย์อีก

             สำหรับนักเรียน วันนี้ผู้เขียนได้ขอสัมภาษณ์น้องๆ นักเรียนจาก ๓ โรงเรียนคือ โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ โรงเรียนบ้านหน้าค่าย และโรงเรียนวัดละไม โดยสรุปคำให้สัมภาษณ์ของน้องๆ นักเรียนทั้ง ๓ คนไว้ดังนี้

คนแรก เด็กชายชาญชพงศ์ หนูขาว หรือ น้องเจ อายุ ๑๒ ปี อยู่ชั้น ป.๖ จากโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ 


          “เจ มาที่นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว”
              “ครั้งแรกครับ”

              “รู้สึกอย่างไรบ้าง”

               “รู้สึกสนุกครับ” 

               “เจ ได้ข้อคิดอะไรจากที่พระอาจารย์สอนในวันนี้”

                “ชอบนิทานที่พระอาจารย์เล่าครับ” 
Picture

                                  น้องเจ น้องแนน น้องบีม

คนต่อไป คือ น้องแนน เด็กหญิงศิรภัสสร ทองพัฒน์ อายุ ๑๐ ปี อยู่ชั้น ป.๔ โรงเรียนบ้านหน้าค่าย

            พอดีว่า วันนี้ ช่วงเช้าไม่มีการนั่งสมาธิ ผู้เขียนสัมภาษณ์ในช่วงพักเที่ยง จึงไม่ได้ถามถึงความรู้สึกจากการนั่งสมาธิในวันนี้ แต่เมื่อถามว่าน้องเจว่าเคยนั่งสมาธิไหม น้องเจเคยลองนั่งสมาธิ   เมื่อถามต่อว่า สมาธิมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เจตอบว่า



           “ทำให้มีสติ มีจิตใจปลอดโปร่งครับ”

                 “เจ ชอบเรียนวิชาอะไร”

                            “ภาษาอังกฤษครับ”

             “โตขึ้นเจ อยากเป็นอะไร”

                     “อยากเป็นนักธุรกิจครับ”

                     “แล้วสุภาษิตที่เจประทับคืออะไร”

             “ทะเลาะกับเสือดีกว่าทะเลาะกับคนโง่”

                      “ถ้ามีโอกาส เจ จะมาอีกไหม”

                       น้องเจ ตอบอย่างไม่ลังเลว่า

                      “อยากจะมาอีกครับ”

         


   

                      “แนนมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว”
                         

                               “ครั้งที่สองค่ะ”

                       “ชอบหรือประทับใจอะไรบ้างที่นี่”

              “ชอบทิวทัศน์ค่ะ”

               “แนน ประทับใจที่พระอาจารย์สอนอะไรบ้างวันนี้”

                         “ประทับใจ เกี่ยวเรื่องสวรรค์นรก ค่ะ”

               “แนนคิดว่า สมาธิมีประโยชน์อย่างไรบ้าง”

                “ช่วยให้จิตใจสงบค่ะ”

                         “แนนชอบเรียนวิชาอะไร”

                          “วิชาภาษาอังกฤษค่ะ”

                          “แล้ว โตขึ้นแนนอยากเป็นอะไร”

                          “อยากเป็นพิธีกรค่ะ”
                            “แนนช่วยที่บ้านทำงานบ้านไหม”

                            “ช่วยค่ะ ช่วยกวาดบ้าน”

                     และคำถามสุดท้าย ที่ผู้เขียนได้คำตอบที่น่าประทับใจจากน้องแนน

                      “แนน อยากจะมาอีกไหม”

                      “อยากมาค่ะ อยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาด้วย”

           น้องคนสุดท้าย ที่ผู้เขียนสัมภาษณ์ในวันนี้ คือ เด็กหญิงฤทัยทิพย์  สามสุวรรณ
 หรือ น้องบีม อายุ ๑๑ ปี จากโรงเรียนเทศบาลวัดละไม

                       “บีม มาที่นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว”

                       “ครั้งที่ ๒ ค่ะ”

                        “บีม ประทับใจอะไรบ้างที่นี่”

                         “ประทับใจสถานที่ค่ะ”

                         “บีม คิดว่า สมาธิมีประโยชน์อย่างไรบ้าง”

                          “ช่วยให้จิตใจสงบ และช่วยในการเรียนค่ะ”

                       “สุภาษิต ที่บีมประทับใจคืออะไร”

                       “หลงคำชมจะระบมหัวใจ”

                       “ทำไมถึงชอบสุภาษิตนี้”

                       “เพราะเป็นคนเชื่อคนง่ายค่ะ”

                        “อ๋อ จะได้เอาไว้เตือนสติตัวเองใช่ไหม”

                       “ใช่ค่ะ”

                       “วันนี้ ชอบที่พระอาจารย์สอนตรงไหนบ้าง”

                       “ชอบนิทานเรื่องพระโอรส ๒ พระองค์ค่ะ”

                       “นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าอย่างไร”

                       “ให้รู้จักรักษาสิ่งของแม้จะเล็กน้อยค่ะ”

                       กับคำถามมาตรฐานที่ผู้ใหญ่มักจะถามเด็กๆ 


                    “โตขึ้น บีมอยากเป็นอะไร”   บีมตอบว่า “อยากเป็นนักแสดงค่ะ” 

                          “บีม มีใครเป็นต้นแบบที่ชื่นชอบไหม”

                          “ชอบตุ๊กกี้ค่ะ”

                          “เพราะอะไรล่ะ”

                          “เพราะเป็นคนตลกค่ะ”

                ผู้เขียนจบคำสัมภาษณ์ เพื่อให้น้องๆ ไปเตรียมตัวร่วมกิจกรรมในช่วงบ่ายต่อไป ด้วยการออกไปพูดแบ่งปันสุภาษิตที่ตนเองชื่นชอบให้เพื่อนๆ ฟัง โดยมี อาจารย์สมศักดิ์ บุญสิน ผอ. โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์เป็นพิธีกรผู้ดำเนินกิจกรรมช่วงนี้

หน้าต่อไป (รวมภาพกิจกรรม)

  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับทีปภาวัน
    • ความเป็นมา
    • มูลนิธิทีปภาวัน
    • พระภาวนาโพธิคุณ
  • อาคารสถานที่
    • แนะนำอาคารสถานที่
    • ศาลาปฏิบัติธรรม
    • อาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมสุภาพสตรี
    • ทางเดินภายในพื้นที่
    • สวนธรรมเภรี
    • สวนป่าศิขรินสินธุ
    • สวนสมคิดกฤษณาสาระภู
    • ห้องครัวทีปภาวัน
  • หลักสูตรปฏิบัติธรรม
    • หลักสูตรสุดสัปดาห์แสวงหาอริยะทรัพย์
    • หลักสูตรหาสุขได้จากทุกข์ ขั้นพื้นฐาน
    • หลักสูตรหาสุขได้จากทุกข์ ขั้นสูง
  • ข้อควรปฏิบัติ
  • ตารางปฏิบัติ
  • สมัครปฏิบัติธรรม
  • กิจกรรม
    • ภาพกิจกรรม
    • โครงการปลูกป่า
    • โครงการธรรมะ
    • วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ
  • การเดินทาง
    • รถทัวร์
    • รถไฟ
    • เครื่องบิน
    • รถส่วนตัว
    • จุดนัดพบทีปภาวัน
  • สื่่อธรรมะ